โหวงเฮ้ง ฟัน

ธรรมชาติสร้างฟันให้แก่สัตว์ จุดประสงค์โดยตรงคงให้ขบเคี้ยวอาหารเพื่อเลี้ยงชีพ เนื่องจากอาหารที่ชอบไม่เหมือนกัน การขบเคี้ยวก็ผิดกัน เมื่อความต้องการต่างกัน จึงเป็นเหตุให้ฟันมีลักษณะต่างกันตามไปด้วย

ถึงแม้จะมีลักษณะมากมายหลายอย่างหลายชนิดก็ตาม พอสรุปได้เป็น 2 ประ เภทใหญ่ ๆ นั้นคือลักษณะแหลมคม และลักษณะสี่เหลี่ยม (อาหารที่สัตว์ทั้งหลายใช้เพื่อหล่อ เลี้ยงชีวิตนั้น แยกได้เป็น 2 ประเภทคือ เนื้อสัตว์และพืช) ฟันประเภทแหลมคมมีคุณภาพ ในการกัดฉีก พื้นประเภทสี่เหลี่ยมมีคุณภาพในทางบดขยี้ ฉะนั้นสัตว์ที่อาศัยเฉพาะเนื้อสัตว์ เป็นอาหาร จะประกอบด้วยฟันประเภทแหลมคม (เสือ สิงโต หมาป่า) สัตว์ที่อาศัยเฉพาะพืช เป็นอาหาร จะมีฟันประเภทสี่เหลี่ยม (วัว ควาย กวาง แพะ ม้า) สัตว์ที่กินทั้งเนื้อทั้งพืช (กิน สารพัดอย่างสุดจะคณานับได้) จึงมีฟันหลายลักษณะเกิดขึ้นพร้อมกัน อย่างที่เรียกว่าฟัน เขี้ยว กราม (งายังไม่เกิด ถ้ามีงาด้วยคงจะน่าดู) ใช้ได้ทั้งกัด เดี๋ยว บดขยี้พร้อมกันไปเลย (มนุษย์ครับ)

เนื่องจากมนุษย์ประกอบด้วยฟันหลายชนิด ทั้งเรียงรายกันได้มิดชิด และเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงทําให้สามารถออกเสียงสูง กลาง ต่ำ กระทั่งประกอบหรือผสมให้เป็น วาจาที่พูดกันรู้เรื่องเป็นกลุ่ม ๆ กันไป และมนุษย์เป็นสัตว์ที่เหนือกว่าสัตว์ทั้งหลายก็ด้วยประการฉะนี้แล

สภาพดังได้กล่าวมานี้ แม้จะปรากฏขึ้นตามสิ่งแวดล้อมและความต้องการของสัตว์แต่ละชนิด แต่จากสภาพการณ์เหล่านี้แหละ ฟันจึงเป็นสิ่งสําคัญอันหนึ่งที่มีคุณค่าควรแก่ การแยกแยะ และวิเคราะห์ไปตามสภาพแห่งลักษณะ

ฟันมนุษย์แยกได้ 3 ประเภท ได้แก่ ลักษณะแหลมคมสี่เหลี่ยมบาง และสีเหลี่ยมหนา

ชนิดสี่เหลี่ยมบาง เรียงอยู่ด้านหน้า มี 4 ซี่ ทั้งบนและล่าง รวม 8 ซี่ เรียกว่า ฟัน

ชนิดแหลมคม เรียงถัดจากฟัน มี 2 ซี่ ทั้งบนและล่าง รวม 4 ซี่ เรียกว่า เขี้ยว

ชนิดสี่เหลี่ยมหนา เรียงถัดจากเขียว มี 4 ซี่ ทั้งบนและล่าง รวม ๒๐ ซี่ เรียกว่า กราม

ฟัน เขี้ยว กราม รวมทั้งสิ้น 32 ซี่ (ตามจํานวนส่วนใหญ่ ความจริงมีมาก และน้อยกว่านี้) ความหมายแยกออกได้ 6 ทาง ดังนี้

1. ฟัน แสดงออกทางปัญญา

2. เขี้ยว แสดงออกทางทําลาย (ร้าย)

3. กราม แสดงออกทางสุขภาพ

4. รูปตัว แสดงออกทางคุณภาพ 

5. สภาพ แสดงออกทางประพฤติ

6. จํานวน แสดงออกทางพลังซ่อน

มีลักษณะดี ความหมายดังกล่าว มีผลในทางดี ถ้าเสียก็มีผลในตรงกันข้าม ถ้าครึ่งดีครึ่งเสีย ก็มีผลปานกลาง ขอขยายความเพื่อเป็นการนําทาง ดังต่อไปนี้

1. ฟัน มีความหมายทางปัญญา

ฟันด้านหน้า (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 ซี่ ที่อยู่ตอนกลางเบื้องบน ตำรายกย่องว่า เป็นประตูแห่งปัญญา) มีลักษณะสี่เหลี่ยมแท้ (โคนและปลายฟัน มีส่วนกว้างเท่ากัน) เรียงเป็นระเบียบเรียบร้อยและมิดชิด หมายถึงปัญญา เฉียบแหลม เรียนรู้อะไรได้เร็วเป็นพิเศษ ถ้าลักษณะเสีย จะมีผลในด้าน ตรงข้าม คือมีความฉลาดน้อย หรือปัญญาอ่อนไปเลย แล้วแต่เสียมากหรือเสียน้อย

2. เขี้ยว มีความหมายทางทําลาย (ดุร้าย)

เขี้ยว ควรมีลักษณะอย่าเด่นนัก หมายถึง มีฤทธิ์เดชการต่อสู้พอสมควร ถ้าใหญ่และแหลมคม หมายถึง มีนิสัยโหดเหี้ยม ดุร้าย ชอบการทําลาย และเห็นเป็นเรื่องสนุก (ชอบอาหารเนื้อมากกว่าอาหารพืช)

3. กราม มีความหมายทางสุขภาพ

กรามมีลักษณะสี่เหลี่ยมทั้งโคนและปลาย มีเนื้อกรามแข็ง เรียงได้ระเบียบ เรียบร้อย หมายถึงมีคุณภาพดี จะมีสุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง จะ มีผลตรงกันข้ามไปตามลักษณะที่มีสภาพตรงกันข้ามตามลําดับด้วย

4. รูปตัว มีความหมายทางคุณภาพ

รูปตัวฟัน เขียว กราม มีเนื้อแข็ง มีลักษณะของตนเรียงไปตามตําแหน่ง  เช่นฟันหน้า 2 ซี่ที่เบื้องบน ควรมีรูปโตกว่าเพื่อนฟันด้วยกัน เขี้ยว มีรูปร่างไปตามเขี้ยว กราม มีรูปและตําแหน่งไปตามกราม มีขนาดไปตามใบหน้า นับเป็นคุณภาพที่สมบูรณ์ จะแสดงความหมายชัดเจนตามเป้า และหมายถึง บุคคลผู้นั้นมีคุณภาพดีด้วย ถ้ารวนจะมีนิสัยรวนไปด้วย

5. สภาพ มีความหมายทางประพฤติ

ฟันเรียงตามระเบียบเป็นสภาพที่เรียบร้อย หมายถึงบุคคลผู้นั้นมีความประพฤติ ดี วาจา คําพูดดี รู้ซึ่งในความหมายของคําพูด (เช่นรู้ว่าก่อนลั่นวาจา เราเป็นเจ้านายของคําพูด เมื่อพูดออกไปแล้ว เราต้องเป็นขี้ข้าของคําพูด) ย่อความได้ว่า ประพฤติดีมีสัจจะ เป็นความหมายที่มีสภาพเรียบร้อย ประพฤติ เลว ไร้สัจจะ เป็นความหมายที่มีลักษณะฟันห่างหรือแหลม หรือโยเข้าโยออก

6. จํานวนมากน้อย มีความหมายทางพลังซ่อน

จํานวนมากหมายถึง มีพลังซ่อนมาก พลังซ่อนมีมากเป็นสิ่งที่ดี เพราะทํา อะไรกระฉับกระเฉงได้ยาวนาน โดยไม่เบื่อหน่ายง่าย (ทําอะไรได้ทน อาศัย พลังนี้) แต่ถ้ามีมากเกินไป เวลาโกรธแค้นจะผูกพยาบาทยาวนานและรุนแรง ทางที่ดีควรจะมีกําลังสมดุลย์ เกิดปัญหาว่าจํานวนใดเป็นจํานวนสมดุลย์ เพราะคนหน้าใหญ่คางยาว อาจมีถึง ๓๖ ซี่ คนหน้าเล็กคางจิ๋ว อาจมีเพียง 28 ซี่ สรุปความว่าจํานวนมากน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของคาง ดังนั้นเวลาวิเคราะห์ ให้ถือคางเป็นตําแหน่งชี้ขาด

มาตรฐานของฟัน

ลักษณะฟันที่ดี ควรมีลักษณะตามตําแหน่ง  ตั้งเรียงกัน เป็นระเบียบเรียบร้อยและมิดชิด โคนและปลายของพื้นมีขนาดกว้างแคบเท่ากัน เนื้อฟันแข็ง และมีฟันขาวแวววาว ใบหน้ายาวควรมีฟันทรงสูง ใบหน้าใหญ่ควรมีฟันทรงกว้าง คาง ธรรมดาควรมี 32 ซี่ ถ้าคางยื่นหรือยาว ควรเพิ่มจํานวนมากขึ้น (ยาวมาก 36 ซี่ ถ้ารองลงมา 34 ซี่) คางสั้นหรือจิ๋ว ควรลดจํานวน (ระหว่าง 28 ถึง 30 ซี่)